ทําseo ราคา เรียน SEO ออนไลน์ กับ เรา – ทำเว็บไซต์ติดอันดับด้วย

ทําseo ราคา

ทําseo ราคา อาทิตย์ที่แล้ว ใน SEO เป็นยังไง? และก็เพราะอะไรถึงสำคัญต่อดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง พวกเราได้คุยกันว่า SEO เป็นอย่างไร รวมทั้งชี้แจงขั้นตอนการทำงานของ Search Engines ไปอย่างคร่าวๆรีแคปสั้นๆSEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นวิธีทางการตลาดดิจิทัลเพื่อเพิ่ม Traffic ตามกลุ่มเป้าหมายเข้ามายังหน้าเว็บผ่าน Google ว่านอนสอนง่ายๆเป็นวิธีการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกและก็ไต่ชั้นในหน้าผลของการค้นหา (บางที่เรียก SERP) บริษัทรับทำ SEO ใช้กรรมวิธีสร้างคอนเทนต์ประสิทธิภาพสูงที่มีคีย์เวิร์ดจุดมุ่งหมาย ปรับเสริมเติมแต่งเว็บให้มีคุณภาพ รวมทั้งการผลิต Backlink ซึ่งจะขอชี้แจงในวันหลัง เว็บในไทยหลายรายยังมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับ SEO ไม่มากมายเท่าตลาดต่างถิ่น ฉะนั้นการมีพื้นฐานที่ถูกก็คงจะพาคุณไปได้ไกลพอใช้ในตลาด SEO ประเทศไทย

ทําseo ราคา จำพวกของ SEO?

สายขาว ทำถูกทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ทำให้ผู้ที่เข้ามากระปรี้กระเปร่า Google กระปรี้กระเปร่าด้วย จริงๆทุกคนควรจะย้ำที่ตรงนี้ให้สูงที่สุด หากทำเป็น ก็ทำสายขาวเหมาะสมที่สุด แล้วก็ ตลอดเนื้อหานี้เป็นวิธีการทำสายขาวแค่นั้นสายเทา มีการเลี่ยง หรือ ใช้ตัวช่วยพิเศษสำหรับในการทำให้ Google ถูกใจ ให้ติดอับได้ไว ซึ่งก็มีการเสี่ยงที่ Google จะจับได้ หากจับได้ Google ก็แบนสายดำ ทำทุกๆอย่างที่ขัดกับ Google ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือ ขั้นตอนการทำให้คำค้นหานั้นๆติดอันดับ ไม่เสนอแนะให้ทำเด็ดขาด yangdee

ทําseo ราคา เหตุกระบวนการทำให้คำค้นหาติดอันดับมีอะไรบ้าง?

จากข้อมูลพูดว่าต้นสายปลายเหตุแนวทางการทำให้คำค้นหาติดอันดับนั้นมี 200 กว่าตัว ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของเว็บสำหรับในการเปิด, การกำหนดตำแหน่งคำค้นหา, การมีลิงค์เข้า ลิงค์ออก, การใช้ Header, การแก้ error ภาพในเว็บ แล้วก็ อีกเยอะแยะท้ายที่สุดมาจบที่คำว่า “เขียนเว็บไซต์ให้ท่านภาพ รายละเอียดที่มีคุณประโยชน์ต่อผู้ค้นหา”

2 สิ่งสำคำคัญที่จะต้องรู้เรื่องก่อนเริ่มทำ SEO

Onpage – สาเหตุวิธีการทำเว็บด้านใน ซึ่งพวกเราสามารถปรับรวมทั้งจัดเองได้ทั้งผองOffpage – เหตุวิธีการทำเว็บข้างนอก ซึ่งพวกเราไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมเองได้ทั้งปวง ทําseo ราคา ซึ่งบอกได้เลยว่า ถ้าหากทำ Onpage ก็ดีแล้ว ชั้นคำค้นหาก็จะติดอย่างมีคุณภาพอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นจำต้องพึ่ง Offpage เลยด้วย ต้องการให้จุดโฟกัสเรื่อง Onpage เป็นหลักครับ

1.SEO On page การปรับปรุงแก้ไขด้านในเว็บ
SEO On-Page เป็นการปรับปรุงข้างในเว็บเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งทำให้เว็บมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Keyword ที่ต้องการจะทำ SEO ได้แก่การเขียนบทความที่แทรก Keyword เอาไว้ถือได้ว่าเป็นการทำ SEO On-page อย่างหนึ่ง วิธีการทำ SEO On page สามารถแยกหัวข้อย่อยๆได้ดังนี้

1.1 สร้าง Content ที่เกี่ยวพันกับ Keyword

แน่ๆว่า Content เป็นสิ่งที่ทำให้ Google เลือกเว็บของพวกเรา ถ้าเกิดพวกเราสร้าง Content ที่เกี่ยวเนื่องกับคำค้นหาและก็เป็น Content ที่เป็นประโยชน์ เพราะเหตุไร Google จะไม่เลือกเว็บของพวกเราล่ะ คำว่า Content ในที่นี้เป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ หรือใดๆที่ใช้สำหรับการพรีเซ็นท์รายละเอียดกับผู้ค้นหา

หลักสำหรับการทำ SEO พื้นฐานก็คือการคั่น Keyword เข้าไปในรายละเอียดของบทความนั้นๆรวมทั้งการใส่ Keyword เข้าไปใน Meta tag อีกทั้ง Title แล้วก็ Description ด้วยเพื่อเป็นการบอกให้ Googlebot รู้ดีว่า Content นี้เกี่ยวพันกับ Keyword คำนั้นอยู่นะ ยิ่งใส่ Keyword เข้าไปมากมายยิ่งแสดงให้ Googlebot รู้ดีว่าบทความของพวกเราเน้นย้ำไปที่ Keyword คำนั้น (แม้กระนั้นไม่สมควรอัด Keyword เข้าไปมากมายจนกระทั่งดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ)

แต่เพียงเพียงแค่ใส่ Keyword เข้าไปสิ่งเดียวยังไม่พอเนื่องจาก Google มีวิธีการศึกษาจากกรุ๊ปของคำ ทําseo ราคา ทำให้บางทีมันสามารถทราบได้ว่าบทความนั้นกำลังเอ่ยถึงเรื่องอะไรอยู่ ต่อให้มิได้มี Keyword คำนั้นประกอบอยู่ในบทความเลยก็ตาม แม้กระนั้น Google จะอาศัยคำอื่นๆที่เกี่ยวแล้วก็สื่อความหมายคล้ายกัน (Synonym Keyword)

ทำความรู้จักลูกค้า

ก่อนที่จะเริ่มกล่าวถึงเรื่องยากๆพวกเรามาเริ่มกันที่ส่วนประกอบการตลาดที่ถือได้ว่าเบสิคแต่ว่าก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โน่นเป็นกระบวนการทำ Customer Research

Customer Research จะปูทางให้พวกเราสามารถทำการศึกษาเรียนรู้การตลาดเพื่อทำ SEO อย่างถี่ถ้วนมากเพิ่มขึ้นในวันหลัง มั่นใจว่าคุณคนอ่านบางบุคคลที่ทำธุรกิจคงจะมีภาพลูกค้าในหัวที่แจ้งชัดระดับหนึ่งอยู่แล้ว ภาพนี้พวกเราเรียกอีกอย่างได้ว่า Customer Persona

Persona นี้จะเป็นเพื่อนในจินตนาการที่จะนำทางให้พวกเรามีความเห็นว่ากรุ๊ปลูกค้ามีความต้องการ รู้สึก และก็ทำอะไรจากสิ่งนั้น ใน Persona จะแสดงข้อมูลรากฐานอย่างช่วงอายุ เพศ สถานะทางด้านการเงิน ความพึงพอใจ Pain point หรือปัญหาในชีวิต รวมทั้งวัตถุประสงค์สำหรับในการดำเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย

Customer Persona เป็นอุปกรณ์สำคัญมากสำหรับทั้งยัง Digital Marketing และก็กระบวนการทำ SEO การมี Persona ที่แจ่มชัดไม่เฉพาะแต่ช่วยคุณสร้างสินค้าดังที่ลูกค้าอยาก แต่ว่ายังส่งผลให้ทราบดีว่าพวกเขาพิมพ์อะไรเวลาค้นหาผลิตภัณฑ์พวกนั้น

หาคีย์เวิร์ดที่ใช่

เมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าลูกค้าเป็นคนไหนและก็อยากได้อะไร ขั้นถัดไปเป็นแนวทางการทำ Keyword Research พาร์ทนี้เป็นขั้นตอนที่พวกเราสืบเสาะหาคำหรือประโยคที่สาวใช้ค้นหาใน Google (เรียกอีกอย่างว่า Search Query) โดยส่วนมากจะแบ่งได้เป็น 2 ชนิด

สิ่งแรกเป็น Product Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่คนรับใช้เพื่อระบุค้นหาผลิตภัณฑ์สักชิ้น ได้แก่ “หม้อทอดไม่มีน้ำมัน shopee” ส่วน Informational Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่ใช้หารายละเอียดอื่นๆที่บางทีอาจเกี่ยวโยงแม้กระนั้นไม่เจาะจงเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ “สูตรของกิน หม้อทอดไม่มีน้ำมัน”

การแก้ไขเว็บโดยยึดคีย์เวิร์ดทั้งสองชนิดจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณไปปรากฎบนผลของการค้นหาได้มากขึ้น ไม่ว่าลูกค้าจะค้นหาผลิตภัณฑ์โดยตรงหรือโดยอ้อม ก็ได้โอกาสไปอยู่บนหน้า SERP ของเขาได้เหมือนกัน

มีอุปกรณ์สำหรับในการทำ Keyword Research อยู่นานาประการ แม้คุณทำโปรโมทใน Google Ads อยู่แล้ว ทดลองใช้วัสดุ Google Keyword Planner แต่ว่าหากไม่ ก็ยังมีวัสดุอื่นๆให้ได้ทดลองใช้ด้วยเหมือนกัน ดังเช่น Ahrefs หรือ Ubersuggest อุปกรณ์บางตัวสามารถใช้ได้ฟรี ทดลองเข้าไปศึกษาเล่าเรียนเพิ่มอีกกันมองครับผม

1.ชื่อ Facebook จำต้องจำง่าย แล้วก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจ
เรื่องชื่อ Facebook Page นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นอย่างแรกที่คนเห็นแล้ว ยังเป็นสิ่งที่จะไปปรากฎอยู่บนหน้าการค้นหาของ Google ด้วย เจ้าของกิจการก็เลยจึงควรเลือกชื่อเพจให้ติดหู อ่านง่าย เข้าใจง่าย ไม่ยาวจนถึงเกินความจำเป็น แล้วก็ที่สำคัญ ควรเป็นชื่อที่สื่อถึงผลิตภัณฑ์และก็บริการ ทําseo ราคา หรือธุรกิจของคุณด้วย โดยที่ลูกค้ามองเห็นเพียงแค่ชื่อเพจก็ทราบเลยว่าร้านค้าพวกเราขายอะไร

เว้นแต่ชื่อที่ติดหูแล้ว กางมอยากชี้แนะให้ใส่ Keyword ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของพวกเราเข้าไปด้วย เพื่อที่เวลามีคนค้นหา จะได้พบกับเพจพวกเราง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น Secret of KETO ร้านค้าลับคีโต : ของกินคีโตและก็ของหวานคีโต ฯลฯ ชื่อนี้จะชี้ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเราเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดไหน แล้วก็กลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจพวกเราเป็นคนไหนกันแน่นั่นเอง

2.การตั้ง URL Facebook Page
URL Facebook Page นั้นก็เป็นหัวใจสำคัญสำหรับเพื่อการทำ SEO ที่ใครอีกหลายๆคนไม่ได้ให้ความเอาใจใส่ซักเท่าไหร่ ซึ่งโดยธรรมดาแล้ว Username หรือ URL บน Facebook จะแสดงในต้นแบบ ทําseo ราคา www.facebook.com/username ซึ่งในส่วนที่เป็น Username นี่แหละที่พวกเราจำเป็นจะต้องคิดให้ดีว่าจะใช้คำไหน โดยแนวทางกล้วยๆก็คือ ให้ใช้ชื่อที่สั้น กระชับ และก็เป็นคำที่มีความคิดว่าคนจะเสิร์ช โดยบางครั้งก็อาจจะใช้เป็นชื่อแบรนด์ก็ได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้คนสามารถเสิร์ชพบเพจของพวกเราแล้วก็ทำให้ติดอันดับได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังในฝั่งของ Facebook แล้วก็ Google

3.วางแผนเลือกใช้คีย์เวิร์ด
แนวทางการทำ SEO บน Facebook ก็มีแนวทางสำหรับการเลือกใช้คีย์เวิร์ดเสมือนๆกับแนวทางการทำ SEO จำพวกอื่นๆโดยสิ่งแรกที่พวกเราจำเป็นต้องรำลึกถึงก็คือผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่พวกเราปรารถนาพรีเซนเทชั่นว่าหากคนอยากหาผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ พวกเขาจะใช้คำไหนสำหรับในการค้นหา ซึ่งพวกเราสามารถใช้เครื่องอย่าง Google Keyword Planner หรือ KW Finder มาใช้เพื่อสำหรับในการคิดแผน หรือค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจของพวกเราได้

ซึ่งวิธีการแบบนี้นอกเหนือจากที่จะช่วยตั้งเป้าหมายของเพจแล้ว ยังช่วยเพิ่มอัตราการมองมองเห็น รวมทั้งช่วยทำให้ค้นพบเพจของพวกเราเร็วขึ้นด้วย

แม้กระนั้นที่สำคัญ พวกเราจำเป็นต้องไม่ใส่คีย์เวิร์ดมากจนถึงเกินความจำเป็น แม้กระนั้นควรจะมองบริบท รวมทั้งความเหมาะสม ให้อ่านแล้วแลดูอย่างเป็นธรรมชาติ โดยพวกเราบางทีอาจเลือกใส่คีย์เวิร์ดสำคัญไว้ที่ชื่อ Facebook Page, URL, Hastag หรือคำอธิบายอื่นๆเกี่ยวกับเพจของพวกเราโดยใช้ Keyword อย่างต่ำ 1-2 คำที่เกี่ยวโยงกับแบรนด์เยอะที่สุด และก็มีปริมาณการค้นหาสูงที่สุด

4.เขียนข้อมูลธุรกิจให้ครบ
การเขียนนำเสนอข้อมูลธุรกิจให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ About ที่สามารถจะช่วยให้คนรู้เรื่องธุรกิจของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่องของที่ตั้ง ทําseo ราคา วิถีทางการติดต่อ รวมทั้งเวลาเปิด-ปิด กระทำ ข้อมูลเหล่านี้สามารถที่จะช่วยให้ผู้ที่ได้โอกาสเข้ามาเป็นลูกค้าของพวกเรารู้ดีว่าจะสามารถติดต่อพวกเราได้ทางไหน และก็สามารถถามข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ได้ในเวลาไหนบ้าง panacea-project

ยิ่งไปกว่านี้ ข้อมูลธุรกิจเหล่านี้สามารถช่วยรับรองการมีตัวตนของร้านค้า ทำให้แบรนด์สามารถสร้างความน่าไว้ใจได้ในอีกทางด้วย